มิติหุ้น-ตามที่บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) โดยนางสาวภาวิณี ชยาวุฒิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน ได้รายงานผลประกอบการงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2561 ว่า งบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสำหรับไตรมาส 3 ปี 2561 จำนวน 1,515.26 ลบ. เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 652.73 ลบ. ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,863.67 ลบ. หรือลดลงร้อยละ 12.27 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยผลขาดทุนของบริษัทใหญ่จำนวน 1,105.97 ลบ. และผลขาดทุนจากส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 409.29 ลบ. นั้นมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัท ดังนี้ ราคามันอากาศยานเครื่องบิน (Jet Fuel Price) ในไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 88.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 63.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1,131.91 ลบ. เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29.03 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้บริษัทได้มีการทำสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานบางส่วนซึ่งเป็นไปตามนโยบายป้องกันความเสี่ยงที่บริษัทกำหนด
ส่งผลให้งวด 9 เดือน ปี 2561 บริษัทมีผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม 1,748.47 ลบ. หรือ ขาดทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.39 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่าปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.72 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ร้อยละ 89.91 แต่รายได้ต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (RASK) ลดลงร้อยละ 8.53 ส่งผลให้รายได้รวม ลดลงร้อยละ 1.92 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
www.mitihoon.com