PTTEP มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าปี 60 คาดราคาน้ำมันเฉลี่ย 74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กอดเงินสด 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขยายลงทุน

95

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP โดยนางสาวกาญจนันท์ ปาณานนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายตลาดทุนและนักลงทุนสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 61 มีโอกาสเติบโตดีกว่าปี 60 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยในระดับสูง โดยคาดว่าปีนี้จะเฉลี่ยที่ระดับ 74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปีก่อนเฉลี่ยในระดับ 53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี โดยจะรักษาต้นทุนต่อหน่วยให้อยู่ในระดับ 31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาขายปีนี้เฉลี่ยในระดับสูง แม้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาราคาน้ำมันจะผันผวนก็ตาม

อีกทั้งยังมั่นใจว่าปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในปีนี้จะเป็นไปตามเป้า  310,000 บาร์เรลต่อวันเทียบน้ำมันดิบ เนื่องจากมีสัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งบงกชเพิ่มขึ้น ขณะที่ 9 เดือนแรก 61 ผลิตที่ระดับ 300,338 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าภาพรวมทั้งปีของปีก่อนที่มีปริมาณการผลิตในระดับ 300,000 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อการเติบโต ส่วนค่าเงินบาทหากแข็งขึ้นทุก 1 บาท ส่งผลบวกต่อกำไรดีขึ้น 90-100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองการผลิตปิโตรเลียม PTTEP ได้เตรียมเงินลงทุนสำหรับซื้อกิจการ (M&A) ไว้ราว 500 – 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 แหล่ง โดยได้ให้ความสนใจไว้ในหลายแหล่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ในประเทศเมียนมา มาเลเซีย รวมถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่วนแหล่งผลิตในประเทศโมซัมบิกที่ PTTEP ถือหุ้นราว 8.5% คาดตัดใจลงทุนขั้นสุดท้ายได้กลางปี 62 ขณะเดียวกันเตรียมขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นการต่อยอดการลงทุนจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมโดยเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทในกลุ่มปตท.

อย่างไรก็ตาม PTTEP มีเงินสดในมือ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงพอสำหรับการลงทุนในการซื้อกิจการ และการขยายการลงทุนใหม่อย่างแหล่งบงกช –เอราวัณ หากชนะการประมูล

www.mitihoon.com