ผู้ถือหุ้น NEWS ให้ผ่าน มติ EGM เสนอขายสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น และเพิ่มทุนเพื่อโอกาสที่ก้าวหน้าด้านการเป็น Content Provider

166

มิติหุ้น-บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS รายงานมติการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในการประชุมมีมติหลักๆที่เป็นประเด็นสำคัญคือ

การขอพิจารณาอนุมัติให้บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ จำหน่ายหุ้นสามัญที่ SPC ถือในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.1 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPTV ให้แก่บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) โดยผู้ถือหุ้นมติเห็นด้วยด้วยคะแนนเสียง 34,685,139,479 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99

ต่อมาที่ประชุมพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 149,530,870,699 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 281,961,297,580 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 132,430,426,881 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ

จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นด้วยด้วยคะแนนเสียง 34,674,741,919 หรือร้อยละ 99.63 อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 67,887,511,111 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 132,430,426,881 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 200,317,937,992 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 67,887,511,111 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) ในอัตราการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 0.01 บาท และหากมีหุ้นเหลือจากการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิม (RO) บริษัทฯจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยราคาเสนอขายจะเป็นราคาตามราคาตลาดในราคาที่ดีที่สุดและไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม

ทั้งนี้นาย อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEWS ให้ความเห็นว่า “บริษัทฯจะสามารถปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นจากการดำเนินธุรกิจประกอบกิจการโทรทัศน์ เป็นผู้ให้บริการเนื้อหา (Content Provider) และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการขายโฆษณาด้วยการเช่าช่วงเวลาออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นและให้บริการผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น โดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัทย่อย นอกจากนี้การผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นที่มีอันดับความนิยมสูงย่อมส่งผลต่อรายได้จากการขายโฆษณาที่สูงขึ้น รวมถึงบริษัทฯ จะมีรายได้ที่แน่นอนจากค่าตอบแทนตามสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาผลติรายการ เป็นระยะเวลา 124เดือน ซึ่งนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ

ด้านการเพิ่มทุน นายอารักษ์ฯ กล่าวเสริมว่า “บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงิน และทำให้สถานะทางการเงินในภาพรวมของบริษัทฯ ดีขึ้น ตลอดจนสามารถการชำระหนี้สินคงค้างของ SPTV ซึ่งเป็นเงื่อนไขบังคับก่อนในการจำหน่ายหุ้นสามัญที่ SPC ถืออยู่ใน SPC ให้แก่ TVD”

www.mitihoon.com