ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย หรือ VGI โดยนายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งบริษัทย่อย คือ VGI MACO (Singapore) Private Limited ที่จัดตั้งในสิงคโปร์ เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัทย่อยของกลุ่ม Sinar Mar Group ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายในประเทศอินโดนีเซีย ทั้งธุรกิจเยื่อกระดาษและกระดาษ, เกษตรและอาหาร, บริการทางการเงิน, อสังหาริมทรัพย์, พลังงานและโครงสร้างสาธารณูปโภค และธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม จัดตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้นสัดส่วน 40% : 60% ตามลำดับ มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะจดทะเบียนจัดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.62
โดยบริษัทมีแผนใช้งบลงทุนในประเทศอินโดฯ ราว 30 – 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะพิจารณาแผนลงทุนในช่วงไตรมาส 1/62-63 โดยก่อนหน้านี้บริษัท ได้รับสัญญาในการเข้าไปจัดการบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ซึ่งเป็นสายสำคัญที่อยู่ใจกลางเมืองจาการ์ต้า เป็นเวลา 20 ปี โดยกำลังจะเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2562-2563 (ก.ค.-ก.ย.62) ซึ่งมีทั้งหมด 13 สถานี จำนวน 16 ขบวน 96 โบกี้ ความยาวประมาณ 16 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันยังได้รับสัญญาการบริหารจัดการพื้นที่โฆษณาบริเวณตอหม้อรถไฟฟ้าอีกประมาณ 70 ต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาว่าจะเป็นการใช้ป้ายบิลบอร์ด หรือจอดิจิตอล โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันทีที่รถไฟฟ้า เปิดดำเนินการ และคาดว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 2-3 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสขยายการลงทุนร่วมกับ Sinarmas Group นอกเหนือจากสื่อโฆษณาในประเทศอินโดนีเชีย เนื่องจาก Sinarmas มีที่ดิน Township ในอินโดนีเซียกว่า 40,000 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดที่มีอยู่ 62,500 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศดังกล่าว
โดยที่ผ่านมา Sinarmas ได้มีการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Township ) ไปแล้วบางส่วน ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบไปด้วย ระบบขนส่ง เช่น รถไฟรางเบา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ออฟฟิศ เป็นต้น ทำให้บริษัทฯ ก็มีความสนใจเข้าไปต่อยอดธุรกิจในด้าน e-Payment หรือนำบัตร Rabbit เข้าไปให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับทาง Sinarmas Group ยังมีการดำเนินธุรกิจอีกหลายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม, ธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจพลังงานและโครงสร้างสาธารณูปโภค, ธุรกิจอาหารและเกษตร และธุรกิจเยื่อกระดาษและกระดาษ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจดังกล่าวนี้ ถือเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจของบริษัทในอนาคต
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีความสนใจและมองหาโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมทุน (JV) กับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ Maketing solutions ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ในเครือทั้งหมดนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ร่วมกันได้อย่างสูงสุด รวมถึงเพิ่มช่องทางเลือกให้กับลูกค้าในการทำการตลาดได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพมากกว่า 10 ราย เบื้องต้นบริษัทคาดหวังว่าไม่เกินช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2562 จะได้รับความชัดเจนประมาณ 2 – 3 ราย
อย่างไรก็ดี บริษัทมีเป้าหมายเป็นผู้ให้บริการ Maketing solutions ในสื่อโฆษณาอย่างครบวงจรและเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ส่วนรายละเอียดของงบลงทุนยังคงไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจนได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังเป็นเพียงการศึกษาและพิจารณาถึงความเสี่ยงอยู่ ซึ่งหากมีความชัดเจนจะรีบแจ้งให้ทราบโดยทันที
www.mitihoon.com