อันดับที่ 1 SUSCO แนวโน้มคิว4/60กำไรงาม นักลงทุนเข้าเก็งกำไร กูรูชี้มีสัญญาณซื้อ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับช่วงไตรมาส4/2560 เป็นช่วงไฮซีซั่นเป็นปัจจัยหนุน บริษัทซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO ไตรมาส4/2560 มีกำไรออกมาเติบโตดีกว่าไตรมาส3/2560 ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้น SUSCO โดยราคาในช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 4.02 บาทเพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 2.03% ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้านเทคนิค บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินด้านเทคนิคราคาหุ้นเคลื่อนไหวแนวรับ มีสัญญาณซื้อ
อันดับที่ 2 QTC ส่งซิกปีนี้ มั่นใจ เทิร์นอราวด์
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC โดย นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะพลิกมีกำไร หลังจากช่วง2ปีที่ผ่านมา (59-60) มีผลขาดทุน โดยมีปัจจัยหนุนจาก คำสั่งซื้อสินค้าหม้อแปลงที่สูงขึ้น โดยในประเทศมีความต้องจากภาครัฐในระดับสูงตามการเร่งลงทุน ขณะเดียวกันบริาทยังเร่งรุกการขายในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งได้มาร์จิ้นที่ดี โดยจะเน้นการขายใน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เป็นหลัก โดยประเมินว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปีนี้จะปรับตัวขึ้นไปสูง 30% จากปีก่อนที่อยู่ราว 20% นอกจากนี้บริษัทยังมีงานในมือ(Backlog)อีกกว่า 200 ล้านบาท ที่จะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทยังรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ โดยประเมินว่าภายในปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัทถึง 140 ล้านบาท นอกจากนี้โครงการโรงไฟฟ้ามินบู กำลังการผลิต 50เมกะวัตต์ จะเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) ได้ในช่วงไตรมาส 3/2561 โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน15% จึงจะสามรารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิเข้ามาทันทีภายหลังจากเริ่มCODแล้ว
อันดับที่ 3 บิ๊ก SPVI ลั่นรายได้ปีนี้โต 10% ทุ่มงบ30ลบ. ขยายสาขาเพิ่ม ด้านวงใน แนะ ซื้อ ให้ต้าน 2บ.
ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI โดย นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 2561 จะเติบโตได้ราว 10% ตามการเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นเปิดภายในแบรนด์ AIS Shop by Partner ราว 5 แห่ง โดยเบื้องต้นจะใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เจาะเข้าไปในตลาดการศึกษาซึ่งจะนำสินค้าประเภทกลุ่มเน็ตเวิร์คเข้าเจาะตลาด เนื่องจากจำนวนโรงเรียนในประเทศไทยมีจำนวนมากจึงยังมีโอกาสในการดำเนินธุรกิจได้อีกมาก ซึ่งในขณะนี้ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีแฃะมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านโบรกฯ แนะนำ ซื้อ โดยประเมินแนวต้านที่ 2 บาท และแนวรับ 1.78บาท ณ เวลา 11.33น. ราคาหุ้น SPVI อยู่ที่ 1.85บาท เพิ่มขึ้น 0.06บาท หรือ 3.35% มูลค่าการซื้อขาย 27.2 ล้านบาท
อันดับที่ 4 2Sลุยเทกโอเวอร์-กำไรนิวไฮ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่าบมจ.2 เอส เมทัล หรือ 2S โดย “นายแสงรุ้ง นิติภาวะชน กรรมการผู้จัดการ 2S” เผยว่าอยู่ระหว่างเร่งยกระดับภาคธุรกิจ โดยปัจจุบันได้ศึกษาการเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) และร่วมทุน ทั้งในธุรกิจเดิม และธุรกิจที่ต่อยอด เพื่อสร้างฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้านเงินทุนไม่ใช่ปัญหา เพราะมีกระแสเงินสดสูง กำไรสะสม 661 ล้านบาท (D/E) ต่ำเพียง 0.65 เท่า มั่นใจถ้าได้ข้อสรุปจริง ก็สามารถลงทุนได้ฉลุย สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2560 จะอยู่ในทิศทางที่ดี เพราะบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ความหลากหลาย และมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและเอกชนที่ได้กระจายโครงการในหัวเมืองใหญ่ๆ และ 2S ก็มีฐานการผลิตและลูกค้าที่กระจายตัวในวงกว้างทำให้ออเดอร์ทยอยเข้ามามากขึ้นล่าสุดนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง แนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น 2S จากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยทั้งปี 2560 คาดกำไรนิวไฮแรง P/E ต่ำ แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 8 บาท
อันดับที่ 5 HMPRO กางแผนปี61ขยาย 7 สาขาทั้งในและต่างประเทศ อยู่ระหว่างศึกษาขยายสาขาในกลุ่ม CLMV
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปี 2561 มีแผนขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศราว 7 สาขา แบ่งเป็นในประเทศ 3 สาขา และต่างประเทศที่มาเลเซีย 4 สาขา พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาในกลุ่ม CLMV เพื่อขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ยังมองว่าเศรษฐกิจในปีนี้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งคาดว่าอาจจะสงผลให้บริษัทขยายสาขามากกว่าเป้าที่วางไว้ด้านนักวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ธนชาต ประเมินราคาหุ้น HMPRO ว่าเริ่มมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น แนะนำนักลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไรได้ โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 15.00 บาท