ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ดร.สมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของปี 2561 ยังเผชิญกับแรงกดดันจากปัญหาของสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 4 ของสหรัฐจะชะลอตัว ราคาน้ำมันที่ดิ่งลง ผนวกกับเป็นการเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้นักลงทุนยังมีความกังวลจึงมีแรงขายออกมาอย่างหนัก
ทั้งนี้ หากจะมองในส่วนของเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่ถูกคาดหวังจะเป็นตัวช่วยพยุงดัชนีหุ้นไทยในช่วงสิ้นปีนี้นั้น โดยส่วนตัวมองว่า อาจส่งกำลังให้ SET Index ขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดมากๆ ได้ยาก เพราะปีนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวผันผวนมาตลอด จึงมีโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ทยอยซื้อ LTF – RMF มาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี แรงซื้อในช่วงปลายปีจึงเหลือไม่มาก ขณะที่ยังต้องจับตาด้วยว่า เม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้จะมีมาก-น้อยแค่ไหน
ลุ้นกองทุน AI เก็บหุ้นราคาถูก
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวมองว่ามีความเป็นไปได้อยู่บ้าง ที่กองทุนต่างๆ ที่ใช้ AI หรือโรบอตในการวิเคราะห์การลงทุนในหุ้น จะโปรแกรมให้ระบบเข้าซื้อหุ้นในจังหวะนี้ที่ดัชนีปรับตัวลงค่อนข้างแรง และทำให้ราคาหุ้นบางตัวถึงจุดที่เรียกว่า “โอเวอร์โซล” จึงมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นบางตัวหรือบางกลุ่ม ซึ่งอาจทำให้ SET Index ไม่ไหลลงลึกมากนักในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี
“ปีนี้เหลือเวลาไม่มาก นักลงทุนควรมองตลาดหุ้นไปถึงปีหน้า และควรเลือกลงทุนในหุ้นที่ยังได้ประโยชน์จากเรื่องทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น การเลือกตั้ง การเกิดขึ้นของโครงการภาครัฐ โดยเน้นคัดเลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มบริโภคในประเทศ กลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นต้น” ดรสมชัยกล่าว
ด้านแหล่งข่าวด้านการลงทุนเผยว่า มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ปีนี้ จะมีแรงซื้อเข้ามาในกองทุน LTF ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีเม็ดเงินเข้ามาแล้วประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท ในขณะที่แต่ละปี ตามปกติจะเม็ดเงินขายออกจากกองทุน LTF อยู่ที่ประมาณ 2.5-3 หมื่นล้านบาท
www.mitihoon.com
