อันดับที่ 1 EGCO พร้อมขายธุรกิจถ่านหินในอินโดฯ พลังงานลมออสเตรเลียหากได้ราคาที่น่าพอใจ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือ EGCO โดยนายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมที่ขายธุรกิจเหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซีย หากมีผู้สนใจเสนอซื้อในราคาที่มีผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจหรือได้กำไรดี แม้ว่าขณะนี้ราคาถ่านหินจะปรับตัวสูงขึ้นและมีผลกำไรก็ตาม เนื่องจากมองว่าในระยะยาวธุรกิจถ่านหินจะซบเซา อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาธุรกิจถ่านหินของ EGCO นั้นมีกำลังการผลิตต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ผลิตอยู่1.2 ล้านตันต่อปี และมีสัดส่วนการถือหุ้น 40% ทำกำไรได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาถ่านหินปรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าพลังลมโบโคร็อค วินด์ฟาร์ม(BRWF) ขนาด113 เมกะวัตต์ที่ประเทศออสเตรเลีย หากมีผู้สนใจซื้อก็พร้อมที่จะขายโรงไฟฟ้าดังกล่าวออกไป เนื่องจากเห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจออสเตรเลียอยู่ตัวแล้วทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นน้อย จึงไม่ใช่ตลาดของผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ดังนั้นหาก มีผู้ที่สนใจซื้อโรงไฟฟ้าดังกล่าวก็พร้อมที่จะขายเพื่อนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
อันดับที่ 2 ITD คว้างาน “วันแบงค็อก มิกช์ยูส” มูลค่า 8,250 ลบ.
มิติหุ้น-บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) โดย นายวรวุฒิ หิรัญยไพศาลสกุล เลขานุการบริษัทระบุว่าเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2561 บริษัทฯได้ร่วมลงนามในสัญญาก่อสร้าง กับบริษัท วัน แบงค็อก จำกัด เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการ วัน แบงค็อก มิกซ์ยูส (โครงสร้ างส่วนใต้ดิน) เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้คือ ลักษณะงานก่อสร้างประกอบด้วย การก่อสร้างโครงสร้างส่วนชั้นใต้ดิน ตั่้งแต่ชั้น L2 ถึง B4 มูลค่า 8,250 ล้านบาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาก่อสร้าง 38 เดือน ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ระบุก่อนหน้านี้ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปลดรับประมาณการกำไรต่อหุ้นของ ITDในปี 2018 ลงมา 41 % และ 10 % ในปี 2019 และ 7% ในปี 2010 ราคาเป้าหมายจึงลดลงมาอยู่ที่ 2.68 บ.ในสิ้นปี 2018 อิงจา P/BV ที่ 1 เท่า ในปีนี้เท่ากับ-1.5SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี เทียบกับราคาเป้าหมายเดิมที่ 3.10 บาท อิง P/BV 1.1 เท่า ในปี 2018 โดยเรามองว่ากำไรที่เติบโตแข็งแกร่งจะกลายเป็น upside risk ต่อคำแนะนำของเรา ส่วนปัจจัยลบจะมาจากกำไรที่อ่อนตัวรายไตรมาส
อันดับที่ 3 PTTOR พร้อมรับมือพายุโซนร้อนปาบึก สำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มที่ มั่นใจไม่ขาดแคลน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ PTTOR โดยนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ชี้แจงว่า PTTOR ได้เตรียมความพร้อมในการจัดเก็บสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท ได้แก่ น้ำมันกลุ่มเบนซิน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันอากาศยาน น้ำมันเตา และก๊าซแอลพีจี สำหรับคลังทุกคลังในภาคใต้อย่างเต็มที่ ทั้งที่คลังปิโตรเลียมสงขลา คลังปิโตรเลียมสุราษฎร์ธานี คลังน้ำมันภูเก็ต สถานีเติมน้ำมันอากาศยานกระบี่ สถานีเติมน้ำมันอากาศยานภูเก็ต รวมถึงสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น ทุกแห่ง โดยปริมาณสำรอง ณ คลังทั้งหมดในปัจจุบันนั้น สามารถรองรับปริมาณการใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 3 วัน และยังได้มีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซแอลพีจีไปยังคลังปิโตรเลียม คลังน้ำมัน สถานีเติมน้ำมันอากาศยาน สถานีบริการน้ำมัน ทุกวันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้มีการเตรียมการขนส่งสำรองทางรถยนต์จากคลังน้ำมันภาคกลางไปยังคลังน้ำมันภาคใต้ในกรณีฉุกเฉินหากไม่สามารถดำเนินการขนส่งทางเรือได้ตามปกติอีกด้วย
อันดับที่ 4 HMPRO-GLOBALเด่นค้าปลีก พายุ ‘ปาบึก’ ดันซ่อมบ้านพุ่ง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากเหตุการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่กำลังเคลื่อนขึ้นฝั่งภาคใต้ของไทย คาดมีบริษัทในกลุ่มค้าปลีกที่ได้รับอานิสงส์จากลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าซ่อมแซมบ้านเรือน ได้แก่ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO และ บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ หรือ GLOBAL นายวิทูร สุริยวนากุลประธานคณะกรรมการบริหาร GLOBAL เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 62 คาดรายได้เติบโตต่อเนื่องราว 15% จากปี 61 ที่คาดผลประกอบการเติบโตทำนิวไฮจากปี 60 เป็นผลจากการกำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับบริษัทมีแผนใช้งบลงทุนปี 62 จำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่ม 7 แห่ง
อันดับที่ 5 VNG เสี่ยงพิษพายุปาบึก กระทบการขนส่ง-ต้นทุนค่าวัตถุดิบพุ่ง
พายุโซนร้อน “ปาบึก” จ่อเข้าอ่าวไทยช่วง 4-5 ม.ค. 62 รัฐบาลสั่งให้เฝ้าระวัง 3 จังหวัด คือ ชุมพร-ประจอบคีรีขันธ์-สุราษฏร์ธานี กรมอุตุฯ-วท.ประเมินว่าความแรงของพายุปาบึกจะเท่ากับพายุแฮเรียลที่เคยถล่มแหลมตะลุมพุก ผลกระทบ: มีความเสี่ยงต่อธุรกิจของ VNG เนื่องจากบริษัมมีโรงงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี การที่ฝนตกมากหรือมีพายุเข้าจะทำให้การขนส่งวัตถุดิบและสินค้าทำได้ยาก การเข้ามาปฏิบัติงานของพนักงานก็ยากลำบากถ้ามีน้ำท่วม ต้นทุนค่าวัตถุดิบและค่าขนส่งจะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าไปตะวันออกกลางก็ไม่ค่อยราบรื่นหลังอิหร่านถูกสหรัฐคว่ำบาตร ทำให้ปริมาณขายในประเทศและส่งออกจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวมากขึ้น ดังนั้นผลประกอบการปี 62 ก็ยังมีความเสี่ยงหลังจากที่ประเมินว่าปี 61 จะขาดทุนสุทธิ คงคำแนะนำขาย VNG โดยให้ราคาพื้นฐาน 5 บาท