ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง หรือ STEC โดยนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 61 คาดพลิกกลับมามีกำไรสุทธิราว 1.2 พันล้านบาท จากปี 60 ขาดทุนสุทธิ 611 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นพลิกเป็นบวก 7.55% จากปี 60 ติดลบ 7.33% เป็นผลจากการตั้งสำรองช่วงไตรมาส 4/60 ในโครงการรัฐสภาพและสนามบินภูเก็ต ขณะที่มาร์จิ้นปี 61 เติบโตดีขึ้นเพราะมีงานที่มีมาร์จิ้นดีขึ้น ขณะที่กำไรปี 62 จะดีต่อเนื่อง หรือเติบโตราว 11% จากมูลค่างานในมือ หรือ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3/61 ที่ 1.13 แสนล้านบาท คาดจะส่งมอบได้ราว 2.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากการส่งมอบงานที่ประมูลได้ระหว่างปี 62 ซึ่งคาดจะทำได้ราว 3 พันล้านบาท จากประมาณการงานเซ็นใหม่ราว 4 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้แม้บริษัทพลาดงานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในช่วง ธ.ค. 61 ที่ร่วมทุนกับกลุ่ม BTS ราว 20% แต่ยังมีงานใหญ่ๆ รอประมูลอีกหลายโครงการในปีนี้ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ EEC ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาท่าอากาศยาน อู่ตะเภา มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท ขายแบบ TOR ไปแล้ว คาดว่าจะยื่น ข้อเสนอ 29 ก.พ. 62 ทราบผลประมูล เม.ย. 62, 2. โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่อู่ตะเภา มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขายแบบ TOR ไปแล้ว รอการยื่นข้อเสนอ และผลการประมูล ก.พ. 62, 3.โครงการท่าเรือ มาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่า 5.54 หมื่นล้านบาท ขายแบบ TOR พ.ย. 61 รอการยื่นข้อเสนอ และผลการประมูล ก.พ. 62, 4. โครงการท่าเรือ แหลมฉบัง ระยะที่ 3 มูลค่า 1.14 แสนล้านบาท ขายแบบ TOR พ.ย. 61 รอการยื่นข้อเสนอ 14 ม.ค. 62 ทราบผลการประมูล ก.พ. 62
ขณะเดียวกันจะมีโครงการนอก EEC เข้ามาอีกในปีนี้ เช่น รถไฟฟ้าสีม่วง มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท, ทางด่วน พระราม 3 ดาวคะนอง มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสีม่วง มูลค่า 1.9 แสนล้านบาท ทำให้งานรอประมูลยังหนาแน่นในปีนี้
ส่วนราคาหุ้นล่าสุดประเมินว่าซื้อขาย P/B ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และปัจจัยเร่งการประมูลมากขึ้นในไตรมาส 1/62 ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28.60 บาท
