มิติหุ้น – TCJ ซุ่มแตกไลน์ธุรกิจ เตรียมเปิดตัวโปรดักส์ใหม่เจาะตลาดอสังหา ไตรมาส 1/60 นี้ ย้ำธุรกิจเดิมยังไปได้สวย ฟุ้งฟันมาร์จิ้นแต่ละงานขั้นต่ำ 20% มั่นใจผลักดันรายได้ปีนี้โต 10% ได้ชัวร์ หลังตุน Backlog ไว้แล้วกว่า 600 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ TCJ โดย นายทัสชน ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกโปรดักส์ใหม่ ซึ่งเป็นการแตกไลน์ธุรกิจ ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิมเคลือบสี โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงทดสอบเครื่องจักร และมีกำลังการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 6 แผ่นสแตนเลส ต่อวัน เบื้องต้นประเมินว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาส 1/2561 นี้
ทั้งนี้ในปัจจุบันได้มีออเดอร์เข้ามาแล้วจำนวนมาก และจะเน้นเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก เชื่อว่าในระยะต่อไปโปรดักส์ใหม่ดังกล่าวจะเติบโตได้อีกมาก เนื่องด้วยบริษัทเป็นผู้ผลิตรายแรกๆ และตลาดยังค่อนข้างกว้าง จึงมีโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ได้อีกมาก
ในส่วนของธุรกิจเดิมของบริษัทยังคงมีการขยายตัวในระดับดีที่น่าพอใจ ทั้งธุรกิจการจัดจำหน่าย เครื่องจักรกลก่อสร้าง เครื่องจักรกลอุตสาหกรรมหนัก ธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุที่ทำจากโลหะรวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ธุรกิจรับเหมาติดตั้ง ประกอบและตกแต่งงานวิศวกรรมด้านโลหะภัณฑ์ และธุรกิจให้เช่าเครื่องจักรกลหนัก เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและขนส่ง
ฟันมาร์จิ้นขั้นต่ำ20%
“ในแต่ละงานที่บริษัทรับมา จะมีอัตรากำไรขั้นต้นขั้นต่ำ ที่ประมาณ 20% จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้อย่างดี ขณะที่ในปีนี้จะมีการลงทุนต่างๆ ออกมามากขึ้นทั้งจากภาคเอกชนและงานของภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีโอกาสที่จะได้งานเข้ามาจำนวนมาก จึงเชื่อได้ว่าปีนี้จะเป็นปีทองของบริษัท” นายทัสชนกล่าว
นายทัสชน กล่าวอีกว่า ในปี 2561 นี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้ารับงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานประเภทโครงการรถไฟฟ้าสีต่างๆ และงานโครงการสร้างพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งบริษัทได้จัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งที่เกี่ยวเนื่องต่างๆไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของงานภาคเอกชน ที่บริษัทพร้อมเดินหน้าทำงานตามที่ได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนได้ ส่วนงานที่เซ็นสัญญาไปแล้วและอยู่ในช่วงรอรับรู้รายได้ (Backlog) มีอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท จะสามารถทยอยรับรู้ไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า
www.mitihoon.com