ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป หรือ TISCO ประกาศงบการเงินปี 2561 มีกำไรสุทธิ 7,015.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,090 ล้านบาท โดยนายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า การเติบโตของกำไรสุทธิปี 2561 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจหลัก และการบันทึกกำไรพิเศษจากเงินลงทุน ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน และกำไรจากการขายธุรกิจบัตรเครดิต
ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 12,614.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% ซึ่งเป็นผลจากการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวม โดยอัตราผลตอบแทนของสินเชื่ออยู่ที่ระดับ 6.9% เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่อยู่ในระดับ 6.8% ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนสัดส่วนสินเชื่อไปยังสินเชื่ออเนกประสงค์ และการรับโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ในส่วนของต้นทุนการเงินปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.0% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 2.1% ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (สเปรด) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.9% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.8% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 4.2%
สำหรับรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยในปี 2561 อยู่ที่ 7,418.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจแบงก์พาณิชย์ ทั้งจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้ธรรมเนียมจากธุรกิจจัดการกองทุน แต่ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจวาณิชธนกิจลดลง 0.7% เนื่องจากในปี 2560 มีการบันทึกรายได้จากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์
ในส่วนของตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ณ สิ้นปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.86% เนื่องจากได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดชั้นคุณภาพสินทรัพย์สำหรับสินเชื่อแบบผ่อนชำระ (Installment Loan) ให้มีความเข้มงวดมากขึ้นตามนโยบายการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์แบบระมัดระวัง โดยการชำระหนี้ของลูกหนี้และคุณภาพสินทรัพย์ในพอร์ตสินเชื่อรวมยังทรงตัวอยู่ในระดับเดิม
www.mitihoon.com