“ซาบีน่า” โชว์รายได้ทะลุเป้า ดันกำไรพุ่งเฉียด 49% -เคาะปันผล1.04บ./หุ้น

105

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า (SABINA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมาถือว่า มีรายได้จากการขายเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่บริษัท ตั้งไว้ที่ 15% เป็นผลมาจากปรับกลยุทธ์ในยุคที่ธุรกิจถูก Disrupt โดยการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทั้งทางด้านของตัวสินค้าและช่องทางการซื้อ

ปรับกลยุทธ์สอดรับความต้องการตลาด

โดยในส่วนของสินค้านั้นพบว่าผู้บริโภคต้องการสินค้าที่สวมใส่สบาย บริษัทจึงพัฒนาชุดชั้นใน “ไวร์เลส เชฟ” เน้นสวมใส่สบายเหมือนไม่ได้สวมอะไรเลย ซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จสูงมาก ส่งผลให้ SABINA เติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม ขณะเดียวกัน บริษัทได้หันมาให้ความสำคัญกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย จนทำให้ในปีที่ผ่านมา ยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท เติบโตขึ้นถึง 163.52%

ส่วนยอดขายผ่านช่องทางอื่นๆ ก็เติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยยอดขายชุดชั้นในแบรนด์ซาบีน่าผ่านช่องทางรีเทล ซึ่งเป็นช่องทางหลักเติบโต 8.64% ขณะที่การส่งออกสินค้าแบรนด์ซาบีน่าไปยังประเทศในแถบ CLMV ขยายตัว 17.38% และรายได้จากสินค้ารับผลิต (OEM) เติบโต 30.26% ซึ่งการปรับกลยุทธ์ไปสู่การขายออนไลน์ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้กำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาเติบโตได้ถึง 48.72% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ใจป้ำจ่ายปันผล 1.04บ./หุ้น

“ปีนี้จะเน้นการเพิ่มคู่ค้าใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น อีกทั้งยังตอบสนองนโยบายหลักในการสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้กับผู้บริโภค (customer seamless experience) พร้อมๆ กับการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าจะทำให้รายได้ในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10%”

ทั้งนี้จากผลประกอบการที่ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 1.04 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น คงเหลือสำหรับการจ่ายในรอบนี้อีก 0.54 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 8 พ.ค. 2562 และจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 พ.ค. 2562