PTTEP ลงนามแล้ว!! สัญญาคว้าแหล่ง “บงกช-เอราวัณ”

441

มิติหุ้น – PTTEP ลงนามกับกระทรวงพลังงาน ในสัญญาแบบแบ่งปันผลผลิตในแหล่งบงกช-เอราวัณ พร้อมเร่งเปิดประมูลแปลงใหม่ในอ่าวไทยมิ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP เป็นผู้ชนะประมูลแบ่งปันผลผลิตผลิตปิโตรเลียม แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย แปลง G2/61 (แหล่งบงกช) และบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท MP G2 (Thailand) บริษัทย่อยของมูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) เป็นผู้ชนะประมูลแบ่งปันผลผลิตผลิตปิโตรเลียม แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย แปลง G1/61(แหล่งเอราวัณ) ได้ลงนามในสัญญาร่วมกับกระทรวงพลังงาน

โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ของไทยในการผลิตปิโตรเลียมรูปแบบแบ่งปันผลผลิต โดยภายหลังจากลงนามในวันนี้ (25 ก.พ.62) กระทรวงพลังงานจะเป็นคนกลางประสานงานระหว่างกลุ่ม บริษัท PTTEP ผู้ที่ได้สัมปทานรายใหม่กับกลุ่มบริษัทเชฟร่อน ผู้ถือสัญญาผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณในปัจจุบันโดยจะต้องทำข้อตกลงระหว่างกันในการเข้าไปสำรวจหรือเตรียมการก่อนหมดอายุสัญญาปี 2565 เพื่อให้การดำเนินการผลิตมีความต่อเนื่อง

ทั้งนี้ตามข้อเสนอเงื่อนไขและผลตอบแทนของ PTTEP นั้นดีกว่าคู่แข่ง โดยเสนอให้กับรัฐที่ราคาก๊าซธรรมชาติแปลงเอราวัณที่ราคา 116 บาทต่อล้านบีทียู เสนอส่วนแบ่งกำไรให้รัฐ 68% PTTEP 32% แหล่งบงกชที่ 116 บาทต่อล้านบีทียู เสนอส่วนแบ่งกำไรให้รัฐ 70% ของPTTEP 30% เสนอต่ำกว่าราคาขายในปัจจุบันในแหล่งบงกชที่ PTTEP ขายอยู่ 214 บาทต่อล้านบีทียู ส่งผลให้การซื้อแก๊สจากแหล่งอ่าวไทยตั้งแต่ปี 2565 รัฐซื้อราคาถูกลง

สำหรับแปลงบงกชและเอราวัณ แล้วเทียบเท่าส่วนลดค่าใช้จ่ายราคาก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศเท่ากับ 550,000 ล้านบาทและสามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐ 100,000 ล้านบาทต่อเนื่อง 10 ปี ตามเงื่อนไขการผลิตปิโตรเลียมขั้นต่ำ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 15-20 สตางค์ต่อหน่วยไปอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 10 ปี

นอกจากนี้ ยังได้เร่งเปิดประมูลปิโตรเลียมในอ่าวไทยแปลงใหม่เพิ่มในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะกำหนดเงื่อนไขเหมือนกับการประมูลแกล่งบงกช-เอราวัณ