มิติหุ้น – GULF จ่อขายไฟเข้าระบบเพิ่มอีก 638 MW ทั้งในไทยและเวียดนาม เตรียมแผนลุยโรงไฟฟ้าในลาวต่อเนื่อง สู่เป้าหมายรวม 11,910 MW ในปี 2567 รายได้ทะยาน 1-1.3 แสนล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF โดยนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร เผยว่า ภายในปีนี้ บริษัทเตรียมขายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มอีก 638 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ในไทย 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 519 เมกะวัตต์ และในเวียดนาม 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 119 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรเพื่อเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังานน้ำใน สปป.ลาว บริเวณเขื่อนขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตมากกว่า 1 พันเมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 62 นี้
สำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศโอมาน กำลังการผลิตรวม 326 เมกะวัตต์ พร้อมขายน้ำจืด 1,667 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงให้โรงกลั่นขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทร่วมลงทุนกับพันธมิตร โดยเข้าถือหุ้น 45% ใช้งบประมาณการลงทุนราว 483 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) เป็นเวลา 25 ปี คาดว่าจะทยอย COD ในปี 63 ถึงปี 65 อย่างไรก็ดี บริษัทยังมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติม จากเห็นแนวโน้มการลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมในอนาคต
“เรายื่นซองเสนอโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 (ช่วงที่ 1) ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยร่วมกับบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ปตท. หรือ PTT โดยร่วมกันถือหุ้นในสัดส่วน 70% และ 30% ในการขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ เพื่อสร้าง LNG Terminal มูลค่า 5.54 หมื่นล้านบาท รองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี สอดคล้องกับการมุ่งเน้นสู่การขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติ” นางสาวยุพาพิน กล่าว
ขณะที่ปี 2567 คาดมีรายได้เติบโตแตะ 1-1.3 แสนล้านบาท จากการ COD โรงไฟฟ้าทั้งหมดตามแผน 33 โครงการ ทำให้มีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดที่ 11,910 เมกะวัตต์ หรือคิดตามสัดส่วนการถือหุ้น 6,721 เมกะวัตต์ โดยบริษัทวางงบลงทุน 5 ปี (62-66) จำนวน 1.4 แสนล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP)