มิติหุ้น – TOP ไตรมาส 1/62 ลุ้นกำไรสต็อกน้ำมัน ตามค่าการกลั่นที่ระดับ 4-4.5 เหรียญฯต่อบาร์เรล หลังโรงกลั่นในตลาดทยอยปิดซ่อมบำรุง และราคาน้ำมันสูงขึ้น คาดทั้งปีราคาน้ำมันเฉลี่ย 60-65 เหรียญฯ ค่าการกลั่นกลับสู่ระดับ 6 เหรียญฯต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ผู้ประกอบการธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยนายชัชชัย สิริวิชช์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ เผยว่า ค่าการกลั่นอ่างอิงตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจุบันเฉลี่ยระดับ 4-4.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากช่วงต้นเดือน ม.ค. 62 อยู่ระดับ 2-2.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา เริ่มทยอยจะหยุดซ่อมบำรุงในเดือน ก.พ.-เม.ย.62 และโรงกลั่นในกลุ่มประเทศเอเชียหยุดซ่อมบำรุงในเดือน เม.ย.-มิ.ย.62
นอกจากนี้ จากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 60-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากสิ้นปี 61 ปิดที่ระดับ 57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จึงคาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน ดังนั้น ภาพรวมผลประกอบการในช่วงไตรมาส1/62 มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูกาลหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในตลาดโลก คาดว่าจะช่วยผลักดันค่าการกลั่นช่วงครึ่งปีแรก62 แตะในระดับ 5-5.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องในไตรมาส2/62 ขณะเดียวกันนี้ ในช่วงปลายไตรมาส 3/62 คาดว่าค่าการกลั่นจะกลับมาอยู่ในระดับ 6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากช่วงนี้จะมีการสต็อกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น รองรับข้อกำหนดขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่มีมติให้จำกัดกำมะถันในน้ำมันเตาของเรือเดินสมุทรไม่เกิน 0.5% จากระดับ 3.5% ที่จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 63
ส่วนภาพรวมทั้งปี 62 คาดว่าค่าการกลั่นจะเฉลี่ยอยู่ในระดับ 6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะราคาน้ำมันดิบดูไบคาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 60-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากเนื่องจากกลุ่มโอเปกมีการควบคุมการผลิต ขณะสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน และเวเนซุเอลา จะส่งผลให้ซับพลายตึงตัว ดีมานด์ยังเหมือนเดิมทำให้เกิดความสมดุลขึ้น ซึ่งหากราคาน้ำมันไม่ผันผวน จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ แต่ต้องจับตามผลกระทบด้านอื่นที่จะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เช่น สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
www.mitihoon.com
