ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยนายวิรไทย สันติประภพ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในงานสัมนา “เศรษฐกิจไทยขยับ เตรียมรับเทคโนโลยีเปลี่ยน” ว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนสูง โดยปัจจัยส่วนใหญ่มาจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินอื่น ไม่ใช่เฉพาะเงินบาทแข็งค่า แต่เงินวอน เงินริงกิตก็แข็งค่ามากเช่นกัน จึงแนะนำให้ภาคธุรกิจบริหารจัดการความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน
แม้ว่าในปีที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งตามคาด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศที่เกินดุลบัญชีเดินสะพัดเกือบ 4.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 10%ของจีดีพี เนื่องจากไทยมีเงินตราต่างประเทศเข้ามามาก ทั้งจากการส่งออก และ การท่องเที่ยว
ด้านนายนลิน ทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า มองแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2561 จะมีทิศทางที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากที่เคยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยประเมินว่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 3.8% ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของกำลังซื้อทั่วโลกกลับมามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจที่เติบโตมากเกินไป จะเป็นความเสี่ยงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนดโยบายอย่างรวดเร็ว และอาจจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุน
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2560 มองว่ามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แต่ยังมีกรอบจำกัดอยู่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาดัชนีไปได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากพอสมควรแล้ว ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้ประมาณการดัชนี SET index จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,800 จุด โดยคาดว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 10% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนภาครัฐ การฟื้นตัวจากภาคบริโภค ประกอบกับเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามยังต้องรอความชัดเจนจากการเลือกตั้งในปีนี้
www.mitihoon.com
